เพลงชาติไทย
โดย นภดล ลิ้มสุรัตน์
‘เพลงชาติไทย’
คำร้อง
โดย พันเอกหลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)
ทำนอง
โดย พระเจนดุริยางค์
ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ (เมื่อประมาณ ๖๙ ปีมาแล้ว)
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐ
ไผทของไทยทุกส่วน
เชิญธงชาติขึ้นยอดเสา |
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมาย
รักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบ
แต่ถึงรบไม่ขลาด
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
เถลิงประเทศชาติไทยทวี
มีชัย ชโย
‘เพลงชาติไทย’ เราจะได้ยินได้ฟังอยู่ทุกวัน ในเวลา 08.00 น.
และ 18.00 น. ในทุกที่ใต้ฟ้าเมืองไทยที่มีวิทยุ
โทรทัศน์ และการถ่ายทอดผ่านเครื่องกระจายเสียง เช่น ตามตลาด ตามโรงเรียน ตามสถานีรถ
ในหมู่บ้าน และในสวนสาธารณะ
นักเรียนร้องได้
คนชราร้องได้ คนในเมืองร้องได้ คนท้องนาร้องได้ เพราะคนไทยทุกคนร้องได้
และจะร้องแบบซึ้งๆ
ระดับน้ำตารื้นๆออกมา
.... หากร้องในยามที่ธงไตรรงค์ถูกชักขึ้น ในโอกาสมอบเหรียญทองโอลิมปิก
ในยามที่บ้านเมืองสงบ… หลายคนอาจจะไม่เห็นคุณค่าของเพลงๆนี้
แต่ในยามสงคราม
มีข้าศึกประชิดเมือง เพลงนี้....จะทรงคุณค่าและเป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ
ทรงคุณค่ายิ่งกว่า
เงินตรา ทองคำ หรือแม้กระทั่งชีวิต
เพราะหากขาดแล้วซึ่งชาติไทย
แล้ว…..’จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง’
วรรคทองที่ว่า ’จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง’ มีการกล่าวขานถึงนานมาแล้ว
นับ ๔๐ ปี นักกลอนสมัครเล่นบางคน ชอบที่จะนำมาใช้เป็นวรรคๆหนึ่งของตนอยู่เนืองๆ
และแม้แต่วงการตลกของเมืองไทยก็ชอบนำมาล้อเลียนบ่อยๆ จนหลายคนชักจะสับสนว่า ต้นแบบของวรรคทองนี้
เป็นของท่านผู้ใด?
บทกวีต้นแบบของวรรคทองวรรคนี้
ประพันธ์โดย คุณนภาลัย สุวรรณธาดา (นามสกุลเดิม ฤกษ์ชนะ)
สมัยยังเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ท่านประพันธ์ขึ้นเพื่อส่งเข้าประกวด
ณ สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง ใน ปีพ.ศ.๒๕๑๐
และผลปรากฏว่า
บทกวีนี้ ชนะเลิศ
บทกวี ‘เพลงชาติ’
ประพันธ์โดย
นภาลัย
(ฤกษ์ชนะ)สุวรรณธาดา ปีพ.ศ.๒๕๑๐
* ธงชาติไทย ไกวกวัด สะบัดพลิ้ว
แลริ้วริ้ว
สลับงาม เป็นสามสี
ผ้าผืนน้อย
บางเบา เพียงเท่านี้
แต่เป็นที่
รวมชีวิต และจิตใจ
ชนรุ่นเยาว์
ยืนเรียบ ระเบียบแถว
ดวงตาแน่ว
นิ่งตรง ธงไสว
"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"
ฟังคราวใด
เลือดซ่าน พล่านทั้งทรวง
ผืนแผ่นดิน ถิ่นนี้
ที่พำนัก
เราแสนรัก
และแสน จะแหนหวง
แผ่นดินไทย
ไทยต้อง ครองทั้งปวง
ชีพไม่ล่วง
ใครอย่าล้ำ มาย่ำยี
เธอร้องเพลง
ชาติไทย มั่นใจเหลือ
พลีชีพเพื่อ
ชาติที่รัก ทรงศักดิ์ศรี
เพลงกระหึ่ม
ก้องฟ้า ก้องธาตรี
แม้ไพรี
ได้ฟัง ยังถอนใจ
แต่สิ่งหนึ่ง
ซึ่งไทย ร้าวใจเหลือ
คือเลือดเนื้อ
เป็นหนอน คอยบ่อนไส้
บ้างหากิน
บนน้ำตา ประชาไทย
บ้างฝักใฝ่
ลัทธิชั่ว น่ากลัวเกรง
ทุกวันนี้
ศึกไกล ยังไม่ห่วง
แต่หวั่นทรวง
ศึกใกล้ ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทย
หันมา ฆ่ากันเอง
จะร้องเพลง
ชาติไทย ให้ใครฟัง *
ช่วงนี้ บ้านเมืองกำลังสับสนวุ่นวายแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ศึกนอกยังไม่มี แต่ศึกในทะเลาะกันวุ่นวาย ไม่เสร็จสิ้น....แบบนี้คู่แข่งทางเศรษฐกิจและคู่แข่งด้านภาพลักษณ์ของประเทศ คงจะกำลังปรบมือตีปีกดีใจ
เพราะแม้ว่า
เราจะไม่พ่ายแพ้ทางสงครามก็จริง….แต่ การพ่ายแพ้ทางเศรษฐกิจและการสร้างภาพลักษณ์ของชาตินั้น
เล่า?
แล้ว.... ‘จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง’
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น